ถุงผ้า กระแสต้านสภาวะโลกร้อน ????
ยังคงเป็นกระแสต่อเนื่องนะคะ สำหรับปัญหา “สภาวะโลกร้อน” ถ้าพวกเราสังเกตุให้ดีจะเห็นว่าในปีที่ผ่านมามีหลายองค์กรทั้งภาครัฐและเอกชนออกมาจัดกิจกรรมรณรงค์เพื่อขอความร่วมมือจากทุกฝ่ายในการช่วยกันลดต้นเหตุการเกิดปัญหาสภาวะโลกร้อน ซึ่งที่ผ่านมาเท่าเราติดตามข่าว กิจกรรมต่างๆที่เกิดขึ้นก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี
แต่มีเรื่องนึงนะคะที่น่าแปลกใจ เราได้ข่าวมาว่าในวงการแฟชั่นเองเค้าก็ให้ความสนใจกับปัญหาโลกร้อนเช่นกัน เลยเป็นที่มาของประเด็นถุงผ้าแก้ปัญหาโลกร้อน ที่ตอนนี้กำลังฮอตอย่างยิ่งในหมู่ดีไซเนอร์ระดับโลกที่พากันหันมาเวิร์กเรื่องนี้สุดๆ
ตอนนี้ไม่เพียงถุงสุดฮอต "I"m Not a Plastic Bag" ของดีไซเนอร์ชาวอังกฤษ Anya Shindmarch ที่เลื่องลือระบือไกลไปทั่วโลก เชื่อมั๊ยคะว่าถึงขนาดขายได้มากกว่าราคาจริงถึง 10 เท่า(โอ้...ว้าว!!!) แต่ทว่าแบรนด์เนมดังๆ อย่าง Hermes, Stella McCartney, Consuelo Castiglioni ฯลฯ หรือแม้แต่แบรนด์กลาง แบรนด์เล็ก ในทุกประเทศทั่วโลก ต่างก็หันมาให้ความสนใจเกี่ยวกับการออกถุงผ้าสุดเก๋มาเอาใจผู้คนรักษ์โลกกันเป็นว่าเล่น
ส่วนกระแสถุงผ้าในบ้านเรา ตอนนี้เป็นอะไรที่กำลังระบาดหนักเช่นกัน เห็นตามศูนย์การค้าใหญ่ๆ ก็พากันหันมารณรงค์ใช้ถุงผ้ากันแล้ว อย่างถุง Green Please ! ของเครือเดอะมอลล์ สยามพารากอน เอ็มโพเรียม นั่นก็ใช่
ล่าสุดก็คือ บีเอสซี แบรนด์หนึ่งในเครือ ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล ที่เปิดตัวกระเป๋าผ้านาโนสุดเก๋ มีข้อความ Save me
ความพิเศษของกระเป๋าผ้ายี่ห้อนี้นอกจากตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายแล้ว ยังแสดงให้เห็นถึงการนำงานวิจัยของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติมาต่อยอดในเชิงธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม แถมยังรักสิ่งแวดล้อม ด้วยการเคลือบอนุภาคนาโนที่เส้นใย ระดับ 90-300 นาโนเมตร ทำให้ผ้าฝ้ายที่ใช้ตัดเย็บกระเป๋าคอลเล็กชั่นนี้เกิดคุณสมบัติคล้ายกับใบบัว ไม่ดูดซับน้ำ น้ำมัน ทำความสะอาดง่าย ทำให้ผู้ใช้สะดวกในการนำไปใช้ได้ในโอกาสต่างๆ
ถือเป็นการเริ่มต้นของอีกหนึ่งยักษ์ใหญ่ที่ทำให้ได้ถุงผ้าสุดเก๋ในอีกเวอร์ชั่นมารับกระแส บุญเกียรติ โชควัฒนา บอสใหญ่ของค่ายนี้บอกว่า"เมื่อเริ่มแล้วไม่ควรหยุดและคงต้องสร้างสำนึก สร้างพฤติกรรมใหม่ ให้คนหันมาถือถุงผ้ากันมากขึ้นด้วย"
หากจะพูดกันจริงๆแล้ว การรณรงค์ให้ใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติกคงไม่ใช่เรื่องที่แปลกใหม่อะไรนัก เพราะถ้าเราดูจากข้อมูลที่มีการสำรวจไว้ เราจะเห็นประเด็นบางอย่างที่น่าสนใจและน่าตกใจ ก็คือ ทุกวันนี้โลกที่เราอาศัยอยู่ใช้พลาสติก (พลาสติกทุกประเภท) กัน 20,000 ล้านตันต่อปี บ้านเราใช้ 20 ล้านตันต่อปี ซึ่งหากทุกคนในเมืองไทยหันมาใช้ถุงผ้าเพียงสัปดาห์ละ 1 วัน เชื่อไหมว่าจะช่วยลดการใช้ถุงพลาสติกได้มากกว่า 100 ล้านถุง/ปี จะช่วยลดค่าใช้จ่ายการเก็บขยะ 650 ล้านบาท/ปี
นี่เป็นกระแสดีๆ ที่ไม่เพียงช่วยเรื่องสิ่งแวดล้อม แต่ยังทำให้วงจรของอุตสาหกรรมสิ่งทอบ้านเราคึกคักขึ้นด้วย เรียกได้ว่ามีช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งช่องทางเลยก็ว่าได้โดยเฉพาะในหมู่ของผู้ผลิตกระเป๋าผ้าฝ้ายที่พากันเห็นแนวโน้มที่ดีของแฟชั่นถุงผ้าเพื่อโลกร้อน
ดังเช่นบริษัทฟิโลเบอร์รี่ ผู้ผลิตขนาดกลางของบ้านเรา ที่ยอมรับว่ากระแสถุงผ้าเริ่มแรงขึ้นแล้ว เพราะเป็นเทรนด์ที่ภาครัฐ เอกชน พากันหันมาทำเพื่อสร้างภาพลักษณ์ขององค์กร โดยทุกวันนี้เขาผลิตถุงผ้าเดือนละ 3,000 ใบ มีการสกรีน 2 แบบ คือ สกรีน โลโก้บริษัทหน่วยงาน หรือสกรีนโลโก้บริษัทหน่วยงานและวิธีช่วยลดโลกร้อน ซึ่งปลายปีหน้าทางบริษัทนี้เขาคาดการณ์ว่าน่าจะดีขึ้นกว่านี้อีกมากทีเดียว เพราะเมื่อถุงผ้าออกสู่ตลาดมากขึ้นก็ทำให้กระแสยิ่งแรงขึ้นไปเรื่อยๆ
"แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องไม่ลืมเปลี่ยนพฤติกรรมหันมาใช้ถุงผ้ากันให้เป็นนิสัย ไม่ว่าจะไปตลาด ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปช็อปปิ้ง หรือใส่เอกสารไปที่ทำงาน อย่าได้ใช้ถุงพลาสติกเชียว ไม่งั้นเชยเอามากๆ นะคะ"
และนี่คือข้อมูลดีๆที่เราอยากให้ได้รู้ไว้นะคะ- ถุงพลาสติก 1 ใบ ต้องใช้เวลาย่อยสลายมากถึง 450 ปี - เฉพาะแค่ กทม. เชื่อไหมว่าต้องเก็บขยะมากถึง 8,500 ตัน/วัน เป็นถุงพลาสติกถึงร้อยละ 21 หรือ 1,800 ตัน/วันเชียว ! (โอ้โห!!!)
ข้อมูลที่เราหยิบมาให้ดูกันนี้ เป็นเพียงข้อมูลส่วนเล็กๆส่วนเดียวของเรื่องราวเกี่ยวกับที่มาของปัญหาโลกร้อนที่มีอยู่มากมาย
ทีเทรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าหน้าผมที่กำลังฮิตติดลมกันอยู่ทุกวันนี้ น้องๆยังอัพเดทตามกันได้ทัน รองหันมาสนใจเทรนด์ดีๆเรานำมาเล่าให้ฟังวันนี้ก็อาจจะดีไม่น้อยเลยก็ได้นะคะ ช่วยให้คุณดูสวยเก๋ขึ้นแล้วยังช่วยโลกได้อีกด้วย...ลองดูนะคะ
ขอขอบคุณ : ข้อมูลจากนิตยสารดีไลฟ์ค่ะ
เขียนโดย Mae Fah Luang University's World Community
อ้างอิงจาก http://globalwarming1001131.blogspot.com/2008/06/blog-post_30.html